Posted in Master of Ceremony (MC)

การเป็นพิธีกรงาน Talk

Our family is growing..png

ปัจจุบันนี้ งานทอล์คกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ลักษณะงานจะเป็นการเชิญบุคคลสำคัญ หรือบุคคลที่กำลังได้รับความสนใจ กำลังเป็นกระแส หรือเป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจจากบุคคลเฉพาะกลุ่ม โดยผู้จัดจะประเมินความสนใจของผู้ฟัง หรือบางงาน อาจเป็นความสนใจของผู้จัดเอง แล้วดำเนินการเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วม มาฟังการ Talk ในครั้งนั้น ๆ

ตรงนี้จะขอไม่กล่าวถึงการจัดงานนะครับ เพราะบทความนี้จะเน้นไปที่การเป็นพิธีกร แต่หากสนใจเรื่องของการจัดงาน และหากมีใครสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังกันเป็นอีกเรื่องหนึ่งแยกไปนะครับ

ก่อน

ในส่วนของการเป็นพิธีกรในงานทอล์คลักษณะนี้ เบื้องต้นเราจะต้องทำความเข้าใจรูปแบบงานกันก่อน ซึ่งงานลักษณะนี้ ไม่ค่อยจะมีอะไรซับซ้อนนัก ยิ่งบางงานที่ผู้จัดค่อนข้างสบาย ๆ ไม่ต้องการพิธีรีตองมาก ไม่มีพิธีการการเปิดการปิดใด ๆ อาจมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพกล่าวทักทายเล็กน้อย อันนี้ก็มีนะครับ

แต่บางงานอาจต้องมีพิธีเปิดที่อาจจะเป็นทางการเล็กน้อย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้จัดของแต่ละงาน โดยปกติถ้าผู้จัดไม่ได้เป็นทางการ เช่น หน่วยงานราชการ ขั้นตอนหรือพิธีการต่าง ๆ ก็จะลดหย่อนกันไป แต่ถ้าเป็นหน่วยงานราชการ หรือบางหน่วยงานที่ต้องการความเป็นทางการ ก็อาจจะมีการเปิดพิธีเล็กน้อยครับ เพราะปกติงานลักษณะนี้จะไม่มีต้องการความเป็นทางการเท่าไหร่ เพราะต้องการบรรยากาศที่สบาย ๆ ผ่อนคลาย ฟังง่าย ๆ ร่วมงานง่าย ๆ

ซึ่งการเป็นพิธีกรในช่วงแรก ข้อมูลที่จะให้หลังจากทักทาย และแนะนำตัวกันไปแล้ว ก็จะกล่าวถึง

  1. ภาพรวมของงาน
  2. วิทยากรที่ให้เกียรติมาทอล์ค
  3. ผู้จัดงาน

ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้ สามารถสลับลำดับ โดยไม่จำเป็นต้องตามนี้ก็ได้ครับ ดูความเหมาะสมเป็นงาน ๆ ไป หรือบางงานอาจจะถามผู้จัดก็ได้ว่า อยากให้กล่าวถึงเรื่องไหนก่อนเรื่องไหนหลัง ก็ได้เช่นกันครับ เพราะโดยส่วนใหญ่ งานทอล์คจะเป็นงานที่มีหัวข้อชัดเจน ผู้เข้าร่วมมักจะเป็นเฉพาะกลุ่มที่สนใจ เนื้อหาจะไม่กว้างจนเกินไป ผู้เข้าร่วมมักจะทราบรายละเอียดบางส่วนของงานมาก่อนอยู่แล้ว

หลังจากให้ข้อมูลงานเบื้องต้นแล้ว พิธีกรคือการบอกถึงกำหนดการคร่าว ๆ ของงาน เพื่อที่จะให้ผู้ชมกับผู้จัด เข้าใจตรงกัน ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก่อน – หลัง โดยบางงานจะมีการแจ้งกำหนดการให้ผู้เข้าร่วมเรียบร้อยก่อนเข้างาน หรือบางงานผู้เข้าร่วมก็ทราบกำหนดการตั้งแต่ก่อนวันงาน แต่บางงานผู้จัดไม่ได้ให้กำหนดการแก่ผู้เข้าร่วมมาก่อน แต่ในบรรดาผู้เข้าร่วมทั้งหมด อาจจะยังไม่ได้รับกำหนดการทุกคน หรือกำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม การบอกกำหนดการคร่าว ๆ เป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อความง่าย และราบรื่นในการดำเนินงาน

เริ่ม

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทักทายแล้ว แนะนำข้อมูลต่าง ๆ แล้ว รวมถึงกำหนดการ ทีนี้ก็มีมาถึงเวลาทอล์คแล้วนะครับ ซึ่งตอนนี้จะเป็นการนำเข้าสู่การเชิญพิธีกร และเท่าที่ผมมีประสบการณ์การเป็นพิธีกรมา การจะพูดถึงวิทยากร หรือการกล่าวนำ ให้ข้อมูลวิทยากรก่อนเชิญขึ้นเวที วิธีที่ดีที่สุดในการกล่าวถึงวิทยากรคือ ถาม ครับ ให้ถามวิทยากรว่า อยากให้แนะนำอย่างไร อยากให้แนะนำอะไรบ้าง

วิทยากรบางท่านมีใบประวัติมาให้เราอ่านเลยครับ กับอีกแบบคือ แบบตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงเลยคือ เดี๋ยววิทยากรจะแนะนำตัวเอง อีกแบบก็กลาง ๆ ระหว่างสองแบบนี้หน่อยคือ เราแนะนำข้อมูลพอสังเขป แล้วรายละเอียดอื่น ๆ วิทยากรจะมาเสริมให้เองระหว่างทอล์ค

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการแนะนำแบบใดก็ตาม เราซึ่งเป็นพิธีกรมีความจำเป็นอย่างยิ่งนะครับ ที่จะต้องหาข้อมูลวิทยากรท่าน ๆ มาก่อนเบื้องต้น อย่างน้อยก็ให้มากพอที่เราจะแนะนำท่านวิทยากรให้ผู้ชมที่มาร่วมงานได้รู้จัก ได้ทราบก่อนที่ท่านจะขึ้นพูด

และถ้าจะให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น อันนี้แอบบอกตรงนี้เลยนะครับผม คือเราต้องหาข้อมูลเชิงลึกเล็กน้อย ที่เกี่ยวข้องกับวิทยากร ต้องรู้ว่าวิทยากรโดดเด่นด้านใดเป็นพิเศษ สนใจในด้านใดเป็นพิเศษ และเรื่องใดที่กำลังเป็นที่ต้องการของผู้ที่มาเข้าร่วมงานในวันนี้ พยายามพูดถึงความโดดเด่นของวิทยากร ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำให้ผู้ชมในวันนี้ ได้รับประโยชน์อย่างที่สุด ถ้าทำถึงตรงนี้ได้ ถือว่าทำการบ้านมาดีเลยครับ เพราะถ้าหากสามารถเชื่อมโยงในลักษณะนี้ได้ จะยิ่งทำให้งานดูน่าสนมากยิ่งขึ้นอีกนะครับ

ระหว่าง

ระหว่างที่วิทยากรกำลังทอล์คนั้น พิธีกรห้ามไปไหนนะครับ (อิอิ) คือบางงาน เวลาเชิญวิทยากรเสร็จ พิธีกรหาย มาอีกทีก่อนเที่ยงเพื่อขอบคุณ และเชิญทานเที่ยง คือบางงานก็ทำได้นะครับ แต่ถ้างานทอล์ค ซึ่งไม่ได้เป็นทางการมาก พิธีกรควรอยู่ในบริเวณงาน ในพื้นที่ที่สามารถได้ยินเสียงได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องทำธุระส่วนตัวจริง ๆ อันนี้ก็ไม่ว่ากัน เพราะหน้าที่หลักในการเชิญวิทยากร ได้เรียบร้อยไปแล้ว

แต่หากไม่ได้ติดธุระสำคัญใด ๆ การที่พิธีกรได้ฟังเนื้อหา ยิ่งนั่งฟังเป็นผู้เข้าร่วมอีกคนได้จะยิ่งดีครับ เพราะเราจะต้องทำหน้าที่สรุปเนื้อหาภาพรวมจากความเข้าใจของตัวเอง ดึงจุดที่น่าสนใจระหว่างการทอล์คมากล่าวไว้บ้างตอนจบช่วง จะทำให้วิทยากรเห็นว่า มีคนสนใจ และตั้งใจฟังอยู่นะ ยิ่งถ้ามีประเด็น หรือเรื่องใดที่พิธีกรสนใจมาก ๆ จริง ๆ อันนี้จะยิ่งดีครับ เพราะเวลาสรุป จะทำให้รู้สึกได้ถึงความรู้จริง ๆ ที่พิธีกรมีต่อช่วงนั้น ๆ ของการทอล์ค

และอีกอย่าง การทอล์คโดยส่วนใหญ่จะมีความน่าสนใจ คุณค่า และประโยชน์จากวิทยากรที่สั่งสมมา และนำมาถ่ายทอด ตรงนี้ ถ้าพิธีกรสามารถนำไปปรับใช้ได้ ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ รวมถึงการเรียนรู้ถึงลักษณะการพูดของวิทยากร พิธีกรเองก็สามารถสังเกต และนำไปปรับใช้กับตัวเองได้ด้วยอีกเช่นกัน

หลัง

หลังจากการทอล์คเสร็จ ส่วนใหญ่จะมีการเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ถามคำถาม บางงานมีคนถามเยอะจนตอบไม่ทันกับเวลาที่มี บางงานแทบไม่มีคนถามเลย ซึ่งไม่ยากครับ หากงานใดไม่มีใครถามเลย พิธีกรอาจจะเตรียมคำถามที่น่าสนใจสัก 1 – 3 คำถาม เพื่อถามในตอนท้ายหลังจากจบทอล์คก่อนที่จะปิดงาน

บางงานจะมีของแจกสำหรับผู้ถาม ซึ่งถ้าของแจกน่าสนใจ อันนี้พิธีกรต้องช่วยให้ของแจกน่าสนใจเพิ่มขึ้น เพราะถ้าของแจกน่าสนใจ คนที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะถามดี หรือไม่ถามดี ก็อาจจะทำให้กล้ายกมือ หรือยืนขึ้นถามคำถามได้ บรรยากาศของการจัดการก็จะดูมีสีสั้นมากขึ้น จะดูเป็นการสื่อสาร 2 ทางมากขึ้น

แต่ช่วงนี้มักจะเป็นช่วงที่รักษาเวลาค่อนข้างยาก เพราะพอเริ่มมีคนถามเยอะขึ้น คนอื่น ๆ ก็จะยิ่งอยากถามมากขึ้น เท่าที่ผมสัมผัสมา เวลาให้เริ่มถาม น้อยมากที่จะมีคนเริ่ม เหมือน ๆ ว่าผู้ชมกำลังรอ หรือลองเชิงกันอยู่ แต่พอมีคนเริ่ม และมีคนตามมาเรื่อย ๆ ทีนี้จะเริ่มมัน เริ่มยาวแล้วครับ หน้าที่สำคัญในตอนนี้ของพิธีกรคือ การรักษาเวลา

เราต้องสามารถควบคุมเวลาให้อยู่ในช่วงที่กำหนดให้ได้ ในเรื่องของเทคนิคการรักษาเวลาช่วงตอบคำถาม ผมอาจจะเขียนแยกออกไปเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากท่านใดสนใจก็คอมเม้นท์ไว้ได้นะครับ โดยหลัก ๆ คือเราต้องคอยสังเกตถึงความเหมาะสม ต้องไม่ให้ยืดเยื้อจนเกินไป และหากไม่แน่ใจ หรือรู้สึกว่าไม่สามารถตัดสินใจได้ ให้ปรึกษากับทีมผู้จัดครับ ว่าควรจะทำยังไง จะจบตรงไหน ตัดเลย หรือต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งสามารถทำได้หมด อันนี้ไม่มีรูปแบบตายตัวครับ

ปิด

เมื่อทุกอย่างผ่านไปเรียบร้อย ก็ถึงเวลาต้องกล่าวคำอำลากับงานทอล์คนี้แล้ว การกล่าวขอบคุณ คุณสามารถออกแบบเองได้เลยครับว่าจะขอบคุณใครก่อน ซึ่งหากให้ผมแนะนำ ถ้าเป็นงานทอล์ค ผมคิดว่าควร

ขอบคุณท่านวิทยากรก่อน ที่ได้สละเวลามาร่วมงาน มาทอล์คในหัวข้อ … ในวันนี้
ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ที่สนับสนุนงาน..
ขอบคุณทีมงานผู้จัด ที่ได้จัดงานนี้ขึ้น ทำให้ ..
ขอบคุณสถานที่..
ขอบคุณอาหาร..
และที่มักจะขอบคุณเป็นกลุ่มสุดท้ายคือ
ขอบคุณผู้ชม ที่ได้..
อันนี้เป็นลำดับคร่าว ๆ นะครับ

อาจจะไม่ตรงตามนี้เป๊ะ ๆ ซึ่งสามารถนำไปปรับ ไปตัด ไปเพิ่มได้ตามความเหมาะสมได้เลย แล้วแต่ความชอบเลย

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะครับ
หากมีอะไรแนะนำ หรือต้องการอะไรเพิ่มเติม
สามารถคอมเม้นท์ได้เลยนะครับผม

ก่อนงาน อย่าลืมเตรียมข้อมูลเหล่านี้ให้พร้อมก่อนนะครับ ทั้ง

ข้อมูลผู้จัด
ข้อมูลวิทยากร
ข้อมูลงาน

เมื่อข้อมูลพร้อมแล้ว ซักซ้อมกันพอสมควรแล้ว ก็เริ่มงานได้เลยครับ

ขอบคุณรูปถ่ายจากงาน Beyond 10 Years by JunSekino จัดโดย MelayuLiving

Author:

สนใจภาษาอังกฤษ การพูด (พิธีกร วิทยากร) ท่องเที่ยว ปัจจุบัน เป็นนักศึกษาทุนปริญญาโท สาขาวิธีวิทยาการวิจัยครับ

Leave a comment